รายละเอียดของวิชากาลจักรลัคน์จร

๑. ความหมายดาว ทั้ง ๗ เพิ่ม ๘ ๙ ๐ มาเพิ่มสีสัน
๒. ความหมาย ของดาว
    ดาวบาปเคราะห์ ๑ ๓ ๗  คือ เปรียบเป็น ผู้ชาย 
    ดาวศุภเคราะห์  คือ ๒ ๔ ๕ ๖  คือ เปรียบเป็น ผู้หญิง  
                 ๘ ๙ ๐  สองเพศ ในร่างเดียว จิตเดียว

๓. ความหมายทักษา จำเป็นอย่างยิ่ง ครูโหรบอกเป็น หลังคาบ้าน นับอายุ ให้เก่ง คล่อง จำทักษา อักษร พระประจำวัน ในสมอง ให้แม่นยำ หลับตาทาย

๔.ความหมายทิศ ทั้ง ๔ และทิศเฉียง ทั้ง ๔ เพื่อหาจุด ที่ของหาย ที่ทำงานที่ดี โรงพยาบาลที่ไม่เลี้ยงไข้ หมอที่ดี เคยอุปถัมภ์ เกื้อกูล กันมาก่อน เพื่อจะได้ หายไว ๆ ไม้เสียเวลาและเสียเงิน ฟรี ๆ จำอักษร คาถาสวดประจำวัน เพื่อให้ลูกค้า หรือตนเอง สวดบทสั้น ๆ ตามพระคาถานั้น เพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิต

๕. ความหมายของราศี ให้แม่น หลับตาทำนาย รู้ เช่น ราศีเมษ ราศีพฤษภ จนถึงราศีมีน

๖. เรือน นั้น ๆ ให้ได้ เช่น ลัคนา อยู่ตรงไหน ตรงนั้น คือ ตนุ กะดุมพะ ให้แม่น ความหมายคืออะไร หลับตาทายได้ คือจำทุกอย่างไว้ในสมอง

๗. ดาวเจ้าเรือนเกษตร อุจ นิจ ประ 
    อยู่ที่ราศีใด ความหมายคืออะไร ให้แม่น ๆ ค่อย ๆ เรียน จด จำ

๘.ความหมายของ ราศี เดินเร็ว เดินช้า มั่นคง ไม่แน่นอน อยู่ในชีท ต้องพยายามจำ เพราะมีผลตอนทาย ว่า ของหาย ได้งาน ได้เงิน ตอนไหน ดูตรงนี้ด้วย

๙.การเดินของดาว กี่วัน ต่อราศี เช่น ดาว ๒ เดินจากราศีนึึงอไปอีกราศี ๒ วันครึ่งเป็นต้น

๑๐.ความหมายราศีอะไร มีคุณลักษณะ รูปร่าง รส กลิ่น สี ผิวพรรณ ให้แม่น จะได้ทาย ปัตนิ หรือหุ้นส่วน เขาถูก อย่าดู แค่ดาว ต้องดูทั้งดาว และราศี และดาวที่ผสม และดาวเจ้าเรือน ในตำแหน่ง
นั้น ๆ ด้วย

๑๑.ตำแหน่งผังรูปร่าง ทั้งวงกลมและตั้งตรง เพราะต้องนี้ สำคัญในการทาย ปวด เจ็บ ผ่า

๑๒.การผูกดวงให้แม่น ให้เก่ง หลับตา ผูกได้ บนสมอง หรือหน้าผาก พยายาม บ่อย ๆ เดี๋ยวชำนาญเอง

๑๓.วัน/เดือน/ปี ไม่แม่น ใช้ยามเวลานั้น ๆ

๑๔.เวลาชนยาม ให้ใช้ยามถัดไปเพราะเราต้องก้าวเดินหน้า เจริญรุ่งเรือง ไม่ถอยหลัง เช่น ยาม ๑๘.๐๐ ถึง เวลา ๑๙.๓๐ เป็นยาม ๑ ให้ใช้ หรือตั้งยามที่ ๒ เป็นต้น

๑๕.พยายามผูกดวงให้ได้อย่างเชี่ยวชาญ ใช้สูตรสำเร็จ ในกรณี ออกงานอีเว้นท์ หรือเวลาเร่งด่วน เพื่อความจำได้ และไม่ลืม หรือในกรณี ชีทหาย มือถือแบตหมด ไฟที่จะใช้คอมฯไม่มี เราต้องเตรียมพร้อม เสมอ ๆ

๑๖.ยามเรามี ๗.๕ นาที ในกรณี ลูกค้ามายามร้าย ควรดึงเวลา โดยการชวนคุย เราดื่มน้ำ จนกว่ายามร้าย จะผ่านพ้นไป เพราะ ๕ % ยามร้ายที่เราพยากรณ์  จะเข้ามากระทบเรา ๕ % ทุกดวงไป และเมื่อออกคำพยากรณ์ไปแล้ว พอถึงยามนี้ หยุดสักพัก ถ้าเป็น อ.บางที พูดเพลิน เทวดา จะช่วยให้ ไอ ๆ เป็นต้น

๑๗.ก่อนจะออกจากบ้าน ไปดูดวง ควรเจริญสติ ไห้พระ ครูอาจารย์ ขอศีล ถือศีล
รักษา ศีล ก็จะดี และก่อนออกคำพยากรณ์ทุกครั้ง ทุกคน ควร ขออนุญาต เทวดารักษาตัวเขาก่อน บางครั้ง ลูกค้า ทุกคน จะมีเทวดาคอยดูแล รักษาเสมอ ในกรณี ลูกค้าเป็นคนดี การที่เราไปเปิดบัญชีสวรรค์ รหัสลับ ของลูกค้าก่อนวันอันควร สิ่งร้าย  จะไม่ค่อยเกิด แรง และเร็ว ส่วนความดีที่ให้รอคอย ก็จะเกิดดี และมาเร็ว ตามการกระทำของลูกค้า ณ อนาคต ต่อไป

๑๘.การไปดูดวง ดูดาว ลูกค้า พูดให้น้อย คิดก่อนพูด เสมอ ๆทุกครั้ง อย่าเผลอพลั้ง พูดไปด้วยความคะนอง จะมีผลต่อ ศีล ข้อ ๔ ทันที อย่าลืมว่า ในพื้นดวง คือ วดป ของลูกค้า เลือกเกิดไม่ได้ สมัยนี้ พ่อแม่เลือกวันเกิดให้  จึงเป็นแค่ระหัสชีวิต บัญชีสวรรค์ มีผลมาจากการบัญชาของกรรมของใครของมันกรรมคือการกระทำ นั่นเอง กรรมปัจจุบัน จะส่งผลในอนาคต ศาสนาพุทธ ของเรา จึงเน้น คิดดี ทำดี พูดดีิ เป็นต้น

๑๙.การออกไปดูดวง หรือออกงานพยากรณ์ เตรียมร่างกาย ให้สะอาด ใจให้ผ่องแผ้ว เสื้อผ้า หน้า ผม เล็บมือ ปาก ฟัน ต้องสะอาด ให้เข้ากับลักษณะ ของงาน ให้ดี มีวิชากับตัว ไม่ต้องกลัว ให้มีความกล้า แต่ไม่ใช่บ้านี่สำคัญ กิริยามารยาท ครูโหรจึงเน้น เสมอ ควรมีจริยธรรม มีคุณธรรม มีสีลธรรม มีนุษยธรรม และจรรยาบรรณต่อลูกค้า และผู้เป็นเพื่อนอาชีพเดียวกันด้วย ทุกคนเก่ง เสมอ ๆ แต่ไม่ควรกร่าง อันนี้สำคัญ หมอดู หรือนักพยากรณ์ หรือโหร ควรมีใจรักดูแลช่วยเหลือ แบ่งปัน อภัย รุ่นน้อง และรุ่นน้องก็ควร รักเคารพ ให้เกียรติ เชื่อฟังรุ่นพี่ อ.จะเน้นเสมอว่า ให้เรา รักกัน ดูแลกัน นะ (ถ้าเหนือบ่ากว่าแรงนัก ก็ต่างคนต่างอยู่ ) ไม่ก้าวก่าย กันและกัน ยิ้ม แย้ม เย็น ยอม หยุด ในข้อสุดท้าย เห็นว่า มีิเวลา เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง ดวงพิณฑุบาส หมายถึง ดวง ที่มีลัคนา หรือตนุเศษ หรือตนุเกษตร มี ดาว ๗ ๘ ๙ หมายถึง
หากดาวเหล่านี้ เล็งลัคน์ทั้ง ๓ ที่พูดไป เล็งลัคน์ คือ ภพปัตนิ นั่นเอง  หมายถึง เล็ง ลัคนา  มีเกณฑ์ ได้เสีย แล้วเลิก  ร้าง ห่าง หม้าย จาก ทางร่างกายหากเล็งตนุเศษ หมายถึง ใจหมายรัก แล้วไม่สมหวัง ภาษาชาวบ้าน อกหัก หากเล็ง ตนุเกษตร หมายถึง อนาคต ต่อไป แก้ไข ปรับปรุงได้ แม้เล็ง ก็แก้ไขได้ ด้วยการ เจริญสติ ถือศีล  ทำทาน ถวายของคู่ จัดเป็นมหาสังฆทาน ถวายพระ มีผ้าไตร ๗ ชิ้น ๑ ชุด หมายถึง บวชพระได้ ๑ องค์ จัดอาหาร คาวหวาน ข้าวสวย น้ำ นม ยาป้องกันรักษาโรค ใส่ปิ่นโต ๕ ชั้น  พร้อมปัจจัยเกินอายุ และดอกไม้ของหอม ถวายบูชาพระพุทธเจ้า โดยมีพระสงฆ์ เป็นตัวแทนมารับ นี่คือแก้ปัจจุบัน เพื่อเป็นฐานบุญ รองรับ ตามการผูกดวง ว่านตุเกษตร เป็นพิณฑุบาส ส่วน ดาว ๐ เล็ง ทั้งสามภพ มีเกณฑ์ ตายจาก แก้เสริมดวงได้ ด้วยการ บนถือบวช ถวายให้คู่ปัตนิ อย่างเดียว หรือสร้างพระแทนตัว หน้าตักกว้าง ๔๙ นิ้ว เท่านั้น (ครูโหรสอนมา) การจะสร้างพระคือบุญใหญ่ บรรลุถึงนิพพาน ปานนั้น การหล่อพระ การบวชพระ  หรือไปงานบวช พระ แม้ไปร่วมบุญเอง ก็ถือว่า ได้บุญ แรง ๑๐๐ %  เสมือนตนเองได้เป็นเจ้าภาพทีดีียว หากแต่ครูโหรสอนว่า สร้างคนโดย ให้ทุนการศึกษา คนบุญอาจน้อย แต่สำคัญยิ่งชีวิต ให้ข้าวปลา อาหาร ยารักษา ป้องกันโรค คนสัตว์ด้อยโอกาศ ถือว่า เป็นทานมัยอย่างสูง เช่นกัน การสร้างคนให้ทุนการศึกษานั้นเป็นอนาคต ที่ดีืของเขา เพื่อปากท้อง เพิ่อขีวิตที่ดี มัั่นคง แต่การสร้างพระ หล่อพระ อาศัย คนในละแวกนั้น ได้ไปกราบ ไหว้สักการะบูชา อันนี้ ก็มีประโยชน์สูง เช่นเดียวกััน